โดยมีความสำคัญ ดังนี้
- เกิดรายได้จากการขาย
- เกิดกำไร
- ขยายกิจการ
- เพิ่มการผลิต/การจ้างคน
- สร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
การตั้งราคานั้นประกอบไปด้วยปัจจัย 2 ด้าน ดังนี้
- ปัจจัยภายใน อันได้แก่ เป้าหมายและวัตถุประสงค์ขององค์กร ต้นทุน ลักษณะผลิตภัณฑ์ วงจรชีวิตผลิตภัณฑ์
- ปัจจัยภายนอก อันได้แก่ วัตถุดิบ ความยืดหยุ่นของอุปสงค์ รูปแบบการแข่งขันที่เกิดขึ้นในตลาดนั้นๆ ความต้องการทางจิตวิทยา สภาพเศรษฐกิจ บทบาทของกฏหมายและรัฐบาล
รูปแบบกลยุทธ์การตั้งราคานั้น สามารถแบ่งได้ตามการตั้งราคาและคุณภาพของสินค้าหรือบริการ ดังรูปต่อไปนี้
อ้างอิงจาก http://www.yorku.ca/lripley/zpppricequal.jpg
การตั้งราคานั้นมีรูปแบบนโยบายแบ่งเป็นทั้งสิ้น 6 ชนิด ดังนี้
อ้างอิงจาก http://www.yorku.ca/lripley/zpppricequal.jpg
การตั้งราคานั้นมีรูปแบบนโยบายแบ่งเป็นทั้งสิ้น 6 ชนิด ดังนี้
- การตั้งราคาเดียวและหลายราคา
- การตั้งราคาสูงและราคาต่ำ
- การตั้งราคาสูงใช้กับสินค้าใหม่ สินค้าที่มีการผลิตไม่เพียงพอ สินค้าที่ผู้ขายผูกขาดกับตลาดเพียงผู้เดียว สินค้าที่มีวงจรอายุสั้น
- การตั้งราคาต่ำใช้กับสินค้าที่ต้องการแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาด หรือ ใช้เพื่อสะกัดการขยายตัวของตลาดคู่แข่ง
- การตั้งราคาตามจิตวิทยา
- ตั้งราคาด้วยเลขคี่ เช่น 19/49/99/1,999
- ราคาที่ล่อใจ
- ตั้งตามกลุ่มสินค้า
- ตั้งตามสินค้าที่มีชื่อเสียง
- ตั้งราคาตามความเคยชินของลูกค้า
- ตั้งราคาตามระดับราคา
- มีการมอบส่วนลด และส่วนยอมให้
- ส่วนลดปริมาณ ทั้งแบบสะสม และไม่สะสม "ซื้อครบ 100 ลด 0.5%"
- ส่วนลดการค้า "1ชิ้น20 / 3ชิ้น50 "
- ส่วนลดเงินสด "จ่ายด้วยเงินสด ลดไปอีก3%"
- ส่วนลดตามฤดูกาล "โปรโมชั่นซื้อแอร์วันนี้ รับส่วนลด ประชดหน้าร้อน"
- ส่วนยอมให้สำหรับการส่งเสริมการขาย "ถ้าแจ้งว่ามาจากเวบไซต์ NThai.com รับเลยส่วนลดชาบูคนละ 20 บาท"
- ส่วนยอมให้สำหรับโฆษณา "เพียงคุณโทรมาภายใน 10 นาทีนี้ รับฟรีครีมกระชับหนังคอ"
- ส่วนยอมให้โดยการนำเอาสินค้าเก่ามาแลก "เพียงนำซองเปล่าของครีมใดก็ได้ มาลดราคาผลิตภัณฑ์โอลี่ ขนาด 1 ลิตรได้อีก 2 บาท"
- ตามหลักเกณฑ์ภูมิศาสตร์
- ตั้งราคาเท่ากันในอาณาจักรเดียว
- ตั้งราคาส่งมอบราคาเดียว
- ตั้งราคาแบบ F.O.B.
- ตั้งราคา ณ จุดฐาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น